The Here Now Project เมื่อโลกกู่ร้องผ่านกล้องโทรศัพท์

อ่านแล้ว 0

รีวิว (0)

...ความหนาวเย็นที่แผ่คลุมรัฐเท็กซัสในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2021 ซึ่งกลายเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา, น้ำท่วมใหญ่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเยอรมนีและจีน, พายุที่รุนแรงจนบ้านเรือนในอินโดนีเซียและบราซิลพังยับเยิน, ไฟป่าที่ลุกลามกวาดล้างพื้นที่ขนาดมหึมาในไซบีเรียและบริติชโคลัมเบีย ไปจนถึงปรากฏการณ์น้ำทะเลขุ่นในตุรกี และฝูงตั๊กแตนมหาศาลน่าขนลุกที่บุกเข้าทำลายพืชผลในเคนยาจนพินาศ

นี่ไม่ใช่ฉากโชว์เทคนิคพิเศษทางภาพของหนังหายนภัยเรื่องใด แต่ทั้งหมดคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 2021 และมันมาปรากฏอยู่ในสารคดีเรื่องนี้...ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ท่ามกลางสถานการณ์รุนแรงสุดขั้วด้วยตัวเราเอง

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะทุกสิ่งในหนังล้วนเป็นคลิปที่เกิดจากการบันทึกด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพาส่วนตัวของคนทั่วโลกกว่า 200 แหล่ง โดยทีมงานสารคดีลงมือรวบรวมมาจากโซเชียลมีเดียตลอดระยะเวลา 20 เดือน ภาพที่เราได้เห็นจึงไม่ได้เกิดจากการจัดฉาก แต่เป็นของจริงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกจริงในวินาทีนั้น ทั้งความตื่นตระหนก ความกลัว ความสิ้นหวัง อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

เกร็ก เจคอบส์ กับ จอน ซิสเกล สองคนทำสารคดีมือเก๋าเคยใช้วิธีเดียวกันนี้ได้อย่างน่าสนใจมาแล้วในผลงานเรื่อง 102 Minutes That Changed America ที่เล่าเหตุการณ์ 9/11 ผ่านการร้อยเรียงคลิปจำนวนมากของผู้คน ทำให้หนังของพวกเขาแตกต่างจากแนวทางของสารคดีแบบดั้งเดิม (ที่มักจะใช้บทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ หรือนักการเมืองมาช่วยสรุปเหตุการณ์) เพราะพวกเขาต้องการให้หนังทำหน้าที่เก็บบันทึกเอาความรู้สึกสด ๆ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ไว้โดยตรง และเพื่อจะทำให้ผู้ชมเกิดความเชื่อมโยงตนเองเข้ากับสิ่งที่ได้เห็นอย่างลึกซึ้งโดยไม่ต้องมีใครอธิบาย

เจคอบส์พูดไว้น่าสนใจว่า ทุกวันนี้เราเห็นสารคดีที่พยายามให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากมาย จนถึงระดับหนึ่งดูเหมือนมันอาจเริ่มก่อผลร้ายในแง่ที่ทำให้คนเกิดภาวะ ‘ชาชินต่อปัญหา’ ขณะที่อีกจำนวนมากก็อาจรู้สึกว่ารู้ไปก็เท่านั้น มันดูเป็นเรื่องไกลตัวหรือแม้ใกล้ตัวก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขาจึงคาดหวังว่าการดึงให้เราได้มาเห็นผลอันน่าตกใจ (และแน่นอนว่าใกล้ตัวสุด ๆ) ที่เกิดขึ้นกับ ‘คนแบบเดียวกับเรา’ ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก จะสามารถช่วยต้านทานภาวะดังกล่าวได้สำเร็จ

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

นอกจากคลิปที่ทรงพลังแล้ว The Here Now Project ยังมีองค์ประกอบเบื้องหลังที่น่าสนใจโดยเฉพาะงานดนตรีประกอบฝีมือ Kubilay Uner ซึ่งใช้เสียงทั้งหมดจากคลิปที่รวบรวมมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงพายุ เสียงไฟ เสียงผู้คน มาออกแบบและบรรเลงเป็นเสียงออร์เคสตราซึ่งขับเน้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเร่งด่วนให้แก่หนังได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งภาพและเสียงจะกระตุ้นเร้าให้เราตื่นตระหนก สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อจริง ๆ ก็ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะเรายังจะได้เห็นภาพของผู้คนที่ยังคงมอบน้ำใจและความช่วยเหลือให้แก่กันแม้ในยามวิกฤต ซึ่งสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มีใครจะรับมือกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้ได้เพียงลำพัง นอกจากนั้น หนังยังเลือกปิดท้ายด้วยคลิปสั้น ๆ ที่หลาย ๆ คน ‘ส่งข้อความถึงโลก’ ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องให้ลงมือทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ (แบบที่เราอาจจะคุ้นจากหนังสารคดีสิ่งแวดล้อมหลายเรื่อง) แต่เป็นการเรียกร้องให้เรามีความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับความจริงและอยู่เคียงข้างกันในการหาทางออกจากปัญหานี้ให้ได้

“การที่เราได้เผชิญหน้ากับหายนะผ่านเหตุการณ์ที่คนในหนังจำนวนมากได้เจอ จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรากล้าแกร่งขึ้นในการรับมือกับมัน หากวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับเราบ้าง” เจคอบส์ให้สัมภาษณ์ไว้แบบนี้ “ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะกำลังทำหน้าที่บอกให้คนดูรู้สึกว่า เราจะสามารถผ่านเรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้ไปได้พร้อมกับผู้คนที่เป็นเหมือนกับเรา และเราจะตอบสนองต่อหายนะนี้ได้อย่างดีด้วยความเป็นมนุษย์”

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project

ภาพจากสารคดี The Here Now Project ภาพจากสารคดี The Here Now Project


▶ ติดตามสารคดี The Here Now Project ปี 2011 ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการว่าเป็นปีแรกที่เหตุการณ์ไฟป่า น้ำท่วม และพายุ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สภาพอากาศสุดขั้วที่นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศทำนาย ไว้เป็นเวลาครึ่งศตวรรษแล้วนั้น...ได้มาถึงแล้ว! สารคดีเรื่องนี้จะเป็นประจักษ์พยาน ด้วยขอบเขตกว้างขวางแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะ "จอน ซิสเคล" และ "เกรก จาค็อบส์" คนทำหนังรางวัลเอมมี่ ทำโครงการ "THE HERE NOW" ด้วยการรวบรวมภาพวิดีโอนับพันชั่ว โมงที่ถ่ายขณะเกิดเหตุการณ์จริงในปี 2011 ผ่านสายตาของคนธรรมดาทั่วโลก โดยไม่มีการบรรยายหรือการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมาขัดจังหวะ เพื่อให้เราได้เห็นลักษณะของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นพร้อม สารคดีเรื่องนี้จึงเป็นทั้ง สัญญาณเตือนภัย และหลักฐานของความยืดหยุ่น ความสามารถในการปรับตัว ตลอดจนความกล้าหาญของมนุษย์ในการเผชิญหน้ากับมัน

รับชมได้ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application

เกี่ยวกับผู้เขียน
ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ก่อตั้ง Documentary Club คลับของคนรักสารคดี และหนังนอกกระแส